นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยในปี 2564 คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐในหลายโครงการ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยการพัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยาน เป็นหนึ่งในโครงการเป้าหมายที่ภาครัฐต้องการพัฒนาการให้บริการท่าอากาศยานในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศให้ดีขึ้น รองรับการคมนาคมและการขนส่งสินค้าทางอากาศที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ CIVIL มีองค์ความรู้ความชำนาญงานก่อสร้างพัฒนาท่าอากาศยานมายาวนาน และได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐให้เข้าไปดำเนินการก่อสร้างและซ่อมบำรุง ทั้งการก่อสร้างทางวิ่ง ลานจอดเครื่องบิน งานอาคาร ระบบไฟฟ้าและระบบประปามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับขีดความสามารถการให้บริการงานท่าอากาศยานในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ โดยปัจจุบัน CIVIL อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการปรับปรุงงานท่าอากาศยานจังหวัดตรัง ระนอง และประจวบคีรีขันธ์
ล่าสุด บริษัทฯ ยังได้รับความไว้วางใจให้เข้าไปดำเนินโครงการก่อสร้างขยายความกว้างทางวิ่งและเสริมทางวิ่ง พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ท่าอากาศยานจังหวัดลำปาง ให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ICAO รองรับอากาศยานแบบ B737 A320 รวมมูลค่าโครงการกว่า 229 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างชั้นทางด้านข้างส่วนขยายใหม่และเสริมผิวทางวิ่งเดิมที่เสื่อมสภาพ เพื่อยืดอายุการใช้งานในคราวเดียวกัน โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 700 วัน
ทั้งนี้ CIVIL จะนำองค์ความรู้จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของทีมบุคลากร เทคโนโลยีก่อสร้างและความพร้อมด้านซัพพลายเชนเข้ามาบูรณาการผ่านภายใต้แนวคิดการบริหารจัดการสมัยใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโครงการก่อสร้างให้บรรลุเป้าหมายของทุกฝ่าย ทั้งด้านระยะเวลาก่อสร้าง คุณภาพงานและความปลอดภัย เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
“การได้รับคัดเลือกจากกรมท่าอากาศยานให้ขยายทางวิ่งและเสริมทางวิ่งของสนามบินลำปาง เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ CIVIL ช่วยตอกย้ำถึงความชำนาญงานก่อสร้างและซ่อมบำรุงท่าอากาศยานที่มีมายาวนาน และนำองค์ความรู้และประสบการณ์บริหารโครงการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบงานที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้ในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการท่าอากาศยานให้ดีขึ้น ทั้งการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยจากการใช้บริการ รองรับจำนวนผู้โดยสารและการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต นอกจากนั้น แล้วการได้รับคัดเลือกยังช่วยเสริมแบ็กล็อกในกลุ่มงานปรับปรุงท่าอากาศยานของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งในปัจจุบันนี้มีมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท” นายปิยะดิษฐ์ กล่าว