จากกรณีที่ คุณพ่อ ของดาราหนุ่ม แชมป์ ชนาธิป ประสบอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 63 ทำให้ได้รับบาดเจ็บต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนานกว่า 4 เดือน และเมื่ออาการดีขึ้น ทางครอบครัวจึงได้ออกมาร้อง ขอความเป็นธรรม ดำเนินคดีต่อ คู่กรณี งานนี้เมื่อหนุ่ม แชมป์ ได้โพสต์เรื่องราวลงอินสตาแกรมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีจันบันเทิง จึงขอพูดคุยถึงเรื่องราวดังกล่าว โดยหนุ่ม แชมป์ เปิดใจว่า
“เรื่องที่เกิดขึ้น เกิดที่ระนองครับ ที่อ.กระบุรี คุณพ่อผมขับรถมา อยู่เลนซ้าย แล้วเปิดไฟเลี้ยวขวา เพื่อที่จะเข้ายูเทิร์น เข้ามาเต็มลำแล้ว อยู่ๆมีรถอีกคันขับมาชนรถคุณพ่อผมครับ มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เขาไลฟ์สดหลังจากเกิดอุบัติเหตุ และช่วยเรียกรถพยาบาล ผมดูจากไลฟ์ เห็นสภาพคุณพ่อนอนหมดสภาพตรงคูน้ำ เพราะรถพ่อผมตกลงไปในคูน้ำ ระหว่างเกาะกลาง อาการตอนนั้น คุณพ่อได้รับการกระทบกระเทือนที่สมอง เลือดออกที่สมอง , เบ้าสะโพกหักหรือว่าหลุดเนี่ยแหละครับ ผมจำไม่ได้ แต่ที่หนักๆก็เป็นขาขวาครับที่หัก การรักษาก็คือ สมองผ่าไปแล้วครับเจาะเลือดออกไปแล้ว คุณพ่อก็สื่อสารได้ 100 เปอร์เซ็น มีสติสัมปชัญญะ 100 เปอร์เซ็น แต่คุณหมอก็ยังคงนัดติดตามผลอยู่ตลอด เพราะคุณหมอเขากลัวว่าถ้าระยะยาวเลือดออกมาอีก ก็จะแย่ ส่วนเบ้าสะโพกก็ผ่าไปแล้ว แต่ขาที่หัก ทำให้คุณพ่อผมพิการตลอดชีวิต เพราะว่าเส้นประสาทตรงบริเวณข้อเท้า มันเสียหายมาก ทำให้ข้อเท้าของ คุณพ่อ ห้อยอยู่ตลอด ควบคุมข้อเท้าไม่ได้ กระดิกไม่ได้ ก็เลยเป็นผลให้ คุณพ่อ ผมเดินไม่ได้ เลยต้องใช้วอล์กเกอร์เป็นตัวช่วยในการเดิน”
“ตอนเกิดอุบัติเหตุ เกิดที่อำเภอกระบุรี หลังจากนั้นโรงพยาบาลกระบุรีก็ส่งตัวไปผ่าตัดด่วนที่ ระนอง อยู่ที่ระนองไม่กี่สัปดาห์ แล้วระนองก็ส่งเข้ามาผ่าตัดสมองที่รามาครับ รวมทั้งหมดที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ประมาณ 3-4 เดือน แล้วคุณพ่อก็กลับมารักษาตัวที่บ้านที่กรุงเทพ เพื่อเข้าสถานกายภาพหลังจากนั้น ก็กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านที่ระนอง “
ตลอดระยะเวลาในการรักษาตัวของ คุณพ่อ คู่กรณี ได้มีการติดต่อพูดคุยบ้างไหม?
“เขาให้ลูกน้องส่งกระเช้ามาครับ มีโทรมาบ้างนานๆครั้ง ที่ผ่านมาไม่นานนี้ก็มาหา คุณพ่อ ครั้งหนึ่ง”
คู่กรณี ของเราไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม?
“เท่าที่ดูในไลฟ์สดของชาวบ้านเขาไม่ได้เป็นอะไรนะครับ เขายังเดินปกติและพูดได้ปกติ ไม่ได้มีอาการอะไรนะครับ ที่เห็นในไลฟ์สดนะ”
เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วแต่ทำไมเราพึ่งโพสต์?
“คดีมันเพิ่งเกิดขึ้น ผมก็เลยเพิ่งโพสต์ สาเหตุที่มันเพิ่งเป็นคดีเพราะว่า คุณพ่อของผมต้องผ่าตัดสมอง แล้วกว่าจะฟื้นตัวกว่าจะมีสติ สื่อสารได้ 100% มีความคิดปกติเหมือนเดิมมันใช้เวลาค่อนข้างนาน เราก็เลยเพิ่งทำในเรื่องของคดีครับ อัยการท่านสั่งฟ้องทางคุณพ่อผมด้วยครับ รวมถึงทางคู่กรณีด้วย ซึ่งวันนี้พี่สาวผมกำลังไปที่ศาลครับ เพื่อฟังคำชี้แจง ซึ่งผมยังไม่ได้อัปเดตจากพี่สาวของผมว่าเป็นอย่างไรบ้าง”
เห็นว่าทางเราจะเรียกร้องให้ถึงที่สุด?
“ผมอยากให้คนผิดได้ชดใช้ตามกฏหมาย ที่ยุติธรรมที่สุดและถูกต้องที่สุดครับ”
เรามีความกังวลใจไหมกับคดีของคุณพ่อ?
“กังวลใจครับ ที่บ้านผมไม่เคยมีใครมีคดีขึ้นศาลมาก่อน มันเป็นสิ่งใหม่ของเรา แต่ในความกังวลใจนั้นเราก็ยังมีความเชื่ออยู่ว่า กระบวนการยุติธรรม ต้องให้ความยุติธรรมกับประชาชนคนไทยเสมอภาคกัน ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาอย่างพวกเราหรือจะเป็นคนที่มีตำแหน่งใหญ่โต ผมเชื่อว่าศาลท่านต้องให้ความยุติธรรมเท่าเทียมกัน”
ครอบครัวว่าอย่างไรบ้างตอนที่ คุณพ่อ ประสบอุบัติเหตุ?
“ผมบอกเลยว่าตั้งแต่ผมเกิดมา ครั้งนี้เป็นวิกฤตที่หนักที่สุดครับ เหตุการณ์วันนั้นผมน่าจะทำงานอยู่เลยไม่ได้รับโทรศัพท์ มีสายโทรเข้ามาเยอะมาก พอผมโทรกลับไป คนที่บ้านบอกว่า คุณพ่อ โดนรถชนผมช็อกไปเลย ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ แล้วผมก็เข้าไปดูในไลฟ์สดของชาวบ้าน ผมช็อกจนเลือดขึ้นหน้า หูแดง หน้าแดง มือสั่น บ้านเราไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อนเลย บ้านเราอยู่กันแบบสงบสุขมาโดยตลอด”
ตอนคุณพ่อรู้สึกตัวแล้วสื่อสารกับเราท่านพูดว่าอย่างไรบ้าง?
“ตอนนั้นคุณพ่อมีอาการเบลอ ง่วงตลอดเวลาเราก็ไม่รู้สาเหตุ คุณหมอวินิจฉัยแล้วบอกว่า สมองได้รับการกระทบกระเทือนแล้วมีเลือดออก คุณพ่อผมอายุ 73 คุณแม่จะ 70 แล้วเขาก็กังวลเรื่องนี้มาก กังวลเรื่องของอาการของคุณพ่อ รวมถึงกังวลเรื่องของคดีด้วย เขาเครียดที่สุดในบ้านครับ ช่วงนั้นเค้าโทรหาลูกๆบ่อยมากครับ”
ณ ตอนนี้ขั้นตอนในการรักษาของคุณพ่อจะต้องทำอะไรต่อไป?
“ตอนนี้คุณพ่อต้องกายภาพครับ เราก็พยายามกระตุ้นให้ท่านได้กายภาพอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่เราทำได้ก็มีแค่รอปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์ให้คุณพ่อเดินได้ครับ สุดท้ายแล้วออกกำลังกายไปมันก็ช่วยให้คุณพ่อแข็งแรงขึ้น แต่ถ้าจะกลับมาเดินได้อย่างปกติปาฏิหาริย์เท่านั้นเลยครับ”
ให้กำลังใจกันอย่างไรบ้าง?
“อย่างแรกคือ พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นทุกคนจะเครียด อารมณ์แปรปรวน เราก็จะพยายามเตือนกันว่าอย่าทะเลาะกันเอง เราต้องสามัคคีกัน ส่วนตัวผมเองก็จะให้คุณพ่อเสพเรื่องราวเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ เช่นมีคลิปวิดีโอที่คนอื่นประสบอุบัติเหตุแล้วมีปาฏิหาริย์ให้เขากลับมาเดินได้เหมือนเดิม บางคนใช้วิธีการนั่งสมาธิ ฝึกจิตภาวนาบางคนก็ใช้การกายภาพควบคู่กันไป บางคนก็กลับมาเดินได้ ก็เอาสิ่งพวกนี้ให้คุณพ่อได้เสพเยอะๆเพื่อเป็นแรงผลัดดัน เผื่อวันนึงจะมีปาฏิหาริย์”
ณ ตอนนี้ท่านก็มีกำลังใจที่ดี?
“ใช่ครับ บ้านเราโชคดีอย่างหนึ่งที่ว่าบ้านเราเป็นนักกีฬา คือคุณพ่อผมก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุท่านอายุ 73 แล้ว แต่หุ่นเฟิร์มมาก ยกเวททุกวัน เป็นชาวสวน ปั่นจักรยานหลายๆ กิโลทุกวัน เพราะฉะนั้นพอต้องมากายภาพ คุณพ่อเลยไม่ขี้เกียจที่จะกายภาพ “
ที่บ้านระแวงไปเลยไหมเวลาออกจากบ้านขับรถเองอะไรประมาณนี้?
“มีครับ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แม่ผมก็จะพูดทุกครั้งที่โทรมา ว่าขับรถไปไหนมาไหนก็ต้องระวังนะ “
ในเรื่องของคดีคิดว่าจะจบเมื่อไร ?
“ผมบอกไม่ได้เลยครับ ผมไม่ทราบว่ากระบวนการของคดีความเป็นอย่างไร เรารู้คร่าวๆแต่ไม่ได้รู้โดยละเอียด ก็ต้องรออัปเดตกันต่อไปครับ ซึ่งผมก็ยืนยันว่าผมเชื่อในเรื่องของความยุติธรรม เชื่อว่าศาลท่านจะให้ความยุติธรรมกับพวกเราทุกคนเท่าเทียมกัน”
อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆที่ให้กำลังใจเรา?
“ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจผมและคุณพ่อรวมถึงครอบครัวของผม ผมเอาคอมเมนต์ในไอจีไปให้คุณพ่ออ่าน คุณพ่อก็บอกว่ารู้สึกดี มีคนให้กำลังใจเราเยอะขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณทุกคนมากๆครับ”
อย่างไรก็ตามวันนี้ 26 ส.ค. หนุ่ม แชมป์ ได้ออกมาโพสต์คลิปลงอินสตาแกรม เพื่ออัปเดตเรื่องของคดีของคุณพ่ออีกครั้ง ว่า
“ทางคุณพ่อได้เข้าพบท่าน อัยการ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถโดยประมาท อันก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคล และเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้รับความเสียหาย โดยทางเราได้ปฏิเสธข้อหาดังกล่าว เพราะจากหลักฐานที่เรามี ทางเราเชื่อว่าคุณพ่อไม่ได้ขับรถโดยประมาททำให้ต้องดำเนินการต่อไปในชั้นศาล ซึ่งศาลท่านจะนัดต่อในเดือนตุลาคม แล้วจะมาอัปเดตให้ฟังอีกครั้ง ขอบคุณทุกคนมากที่ให้กำลังใจ”
ซึ่งสำหรับคดีนี้เราคงต้องติดตามกันต่อไป ส่วนในเรื่องของอาการของ คุณพ่อ แอดขอเป็นกำลังใจให้ท่านกลับมาแข็งแรงในเร็ววันนะคะ