ผู้ว่าฯภูเก็ตออกคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ 25 จังหวัด ต้องได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือผ่านการตรวจคัดกรองปลอดเชื้อโควิดแล้ว มีผลตั้งแต่ 7-15 พ.ค. 64
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงนามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2479/2564 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 แก้ไขเพิ่มเติม คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2284/2564 เรื่อง ปิดสถานที่ และกำหนดมาตรการป้องกัน เฝ้าระวัง และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดภูเก็ต (ฉบับที่ 2) มีผลตั้งแต่วันที่ 7 – 15 พฤษภาคม พ.ศ.2564
สาระสำคัญ มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัด ดังนี้ให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ 25 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม สุพรรณบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ ตาก นครราชสีมา อุดรธานี สระแก้ว ขอนแก่น สงขลา นครศรีธรรมราช นราธิวาส สุราษฎร์ธานี ระนอง กระบี่ ตรัง พัทลุง และผู้ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดภูเก็ต ที่เดินทางออกไปและเดินทางกลับเข้ามาพำนักในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติดังนี้
(1) ผู้ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ต ทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ท่าเรือ ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม (กรณีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งทางท่าอากาศยาน และทางเรือ ต้องได้รับวัคซีนที่ อย. ในประเทศไทยรับรองมาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน) หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 โดยวิธีการ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID – 19 is not detected) หากไม่มีเอกสารดังกล่าว ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ Antigen Rapid Test โดยกระทรวงสาธารณสุขหรือองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ยกเว้น ชาวต่างชาติต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และหากผลการทดสอบพบเชื้อโควิด – 19 ผู้เดินทางต้องไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดทันที
(2) ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง (location) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต
(3) ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต และเมื่อเดินทางถึงพื้นที่ปลายทางให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล เทศบาล หรือ อบต.) ในพื้นที่ที่พักอาศัย
(4) ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ประจำตำบล, เทศบาล, อบต.) พิจารณากำหนดมาตรการควบคุมโรคที่เหมาะสม และให้กักกันตนเอง ณ ที่พักอาศัย (Home Quarantine) ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ฯลฯ
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2564
ที่มา : สสจ.ภูเก็ต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ชลบุรี”ติดเชื้อโควิดรายใหม่วันนี้ 89 ราย สะสม 3,130 ราย
ใกล้ทะลุ 5 หมื่นราย ยอดโควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 2,044 เสียชีวิตเพิ่ม 27 คน
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ ยัน วัคซีนโควิดทุกตัวป้องกันการเสียชีวิต-ป่วยหนักได้เกือบ 100%
ยอดโควิดทั่วโลก 7 พ.ค.64 ติดเชื้อเพิ่ม 838,112 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 13,574 ราย