ประเด็นเด็ด 7 สี – ตำรวจบุกจับเรือประมงลักลอบเติมน้ำมันเขียวกลางทะเล สอบเบื้องลึกพบสวมรหัสเรือลักลอบเติมอีกเกือบ 600 ลำ ทำให้รัฐเสียหายมากกว่า 700 ล้านบาท ติดตามจากรายงานคุณมะลิ แซ่ฉิ่น
นี่เป็นปฎิบัติการขณะที่เรือตำรวจน้ำ นำเรือ เข้าเทียบเรือแท้ง ห่างจากชายฝั่งมากกว่า 12 ไมล์ทะเล หลังพบว่าเรือลำดังกล่าว ลักลอบเติมน้ำมันเขียวให้กับเรือประมงที่สวมทะเบียนรหัสเรือ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐยกเว้นภาษีสรรพสามิตเพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวประมง ก่อนที่ไทยจะถูกยกใบเหลืองการทำประมงจากสหภาพยุโรปเมื่อปี 2558 มีเรือประมงพาณิชย์ได้รับสิทธิ์เติมน้ำมันเขียว 10,459 ลำแต่ในปี 2559 ลดลงมาเหลือ 8445 ลำ แม้จำนวนเรือจะลดลงแต่ถ้าว่ะสัดส่วนน้ำมันเขียวที่ถูกเติมให้กับเรือยังคงอยู่ที่ประมาณปีละ 610,000,000 ลิตรหรือคิดเป็นการยกเว้นภาษีถึง 4000 ล้านบาท
การตรวจสอบในเบื้องลึกผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่ามีเรือที่ไม่มีคุณสมบัติตามประกาศลักลอบเติมน้ำมันเขียว เกือบ 600 ลำ โดยเฉพาะเรือ ช ศรีพลนภาห้าขนาด 122 ตันกรอส ซึ่งทำประมงบริเวณทะเลอันดามันพื้นที่รอยต่อจังหวัดพังงาและระนอง มีพฤติกรรมวนเวียนเติมน้ำมันจากเรือสถานีบริการในเวลาต่างกันโดยใช้รหัสเติมน้ำมันของเรือประมงที่แจ้งทำลายเรือไปแล้ว
ที่น่าเป็นห่วงคือเอกสารที่พบในเรือพบพิรุธเรือสถานีบริการน้ำมันเขียวบริษัทเจ้าของเรือสถานีบริการน้ำมันเขียวรวมถึงสมาคมประมง รู้เห็นเป็นใจในการออกใบรับรองให้แก่เรือที่ไม่มีคุณสมบัติ
การกระทำผิดในครั้งนี้รองอธิบดีกรมสรรพสามิตบอกว่าจะต้องโดนปรับเป็นเงิน 4,320,000 บาทและยังเข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสรรพสามิตพุทธศักราช 2560 มาตรา 203 ฐานนำน้ำมันที่ยังไม่เสียภาษีสรรพสามิตเข้ามาในราชอาณาจักรมีโทษปรับสองเท่าถึง 10 เท่าของภาษีจึงต้องเสียค่าปรับอีก 12,600,000 บาทรวมค่าปรับทั้งสองกฎหมายมากกว่า 16 ล้านบาท
นี่เป็นเพียงบทเริ่มต้นของการปราบปรามขบวนการลักลอบเติมน้ำมันเขียว ซึ่งสร้างความสูญเสียให้แก่รัฐมากกว่าปีละ 700 ล้านบาท โดยที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง และนี่จะส่งผลถึงการประเมินของ อียู ในการพิจารณาปรับระดับการทำประมงผิดกฎหมายในประเทศไทยซึ่งจะประกาศในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ศรชัย ปุยงาม ถ่ายภาพ มะลิ แซ่ฉิ่น ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน