แม่ทัพภาคที่ 4 นั่งหัวโต๊ะประชุมผู้ว่าฯ ระนอง และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ พร้อมมอบนโยบายปฏิบัติการเชิงรุกป้องกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาด โควิด-19 ตามแนวชายแดน กำชับดูแลเข้มการลักลอบนำพาต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ย้ำขอให้ประชาชนมีส่วนร่วมการ์ดห้ามตก
เมื่อวันที่ 13 ต.ค.63 ที่ห้องประชุมรัตนรังสรรค์ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดระนอง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานการประชุมร่วมกับ นายสมเกรียติ ศรีษะเนตร ผวจ.ระนอง หัวหน้าหน่วยงาน ส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อติดตามนโยบายและข้อสั่งการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ การควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดน การสร้างการรับรู้กับพี่น้องประชาชนให้ตระหนักเรื่องการป้องกันการติดเชื้อไวรัส Covid-19 การลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย
ภาครัฐต้องช่วยกันสื่อสาร ทำความเข้าใจกับประชาชนในชุมชน หมู่บ้าน ตลอดจนนายจ้างและสถานประกอบการให้เข้าใจในเรื่องมาตรการทางด้านกฎหมาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องหารือแนวทางในการป้องกันสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงระลอกที่ 2 เนื่องจากสถานการณ์ของประเทศเพื่อนบ้านมีอัตราผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ย้ำในที่ประชุมโดยเน้นเรื่องการปฏิบัติของชุดเฝ้าระวังป้องกันชายแดนในการสกัดกั้นบุคคลลักลอบเข้าออกตามแนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติช่องทางที่ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 ระลอกใหม่ การตั้งรับ แนวป้องกันยังคงใช้มาตรการเชิงรุก ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดต่อบุคคลต่างด้าวที่อาจจะครอบครองโดยผิดกฎหมายและจะปฏิเสธการเข้าเมือง แต่จะต้องปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม
ส่วนการดำเนินการต่อขบวนการลักลอบนำพาต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองนั้น ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นโดยใช้มาตรการทางด้านการข่าว ทั้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ และแหล่งข่าวภาคประชาชน กดดันและขยายผลไปสู่การจับกุมต้นตอของกลุ่มขบวนการในทุกมิติ รวมไปถึงการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี สินค้าทางการเกษตร ยาเสพติด พร้อมขอให้ทุกส่วนเน้นการบูรณาการร่วมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ และฝ่ายพลเรือน สร้างภาวะการรับรู้ให้พี่น้องประชาชนให้ช่วยกันสอดส่องคนแปลกหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ หากพบเจอให้รีบแจ้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่รัฐโดยทันที ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานภาครัฐ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญในการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
“ขอให้มีความร่วมมือร่วมใจกัน สร้างความรับผิดชอบต่อสังคม การ์ดอย่าตก ส่วนกำลังป้องกันชายแดนจะยังคงคุมเข้มตรึงพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจต่อการทำงานที่เข้มแข็งของเจ้าหน้าที่รัฐ”แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว.
