03 ก.ย. 2564 เวลา 23:00 น.
คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย… ว.เชิงดอย
+++ มีคำยืนยันจาก บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระหว่างชี้แจงต่อการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการกระตุ้นท่องเที่ยว ว่า ยังยืนยันแผนการเดินหน้าสู่การ “เปิดประเทศภายใน 120 วัน” ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เพราะเข้าใจความเดือดร้อนของทุกฝ่าย รัฐบาลดูแลคนทุกกลุ่ม ทุกกิจกรรม ให้คนทั้งประเทศได้ประโยชน์จากมาตรการของรัฐ ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้แย่กว่าประเทศอื่น อะไรที่ทำดีอยู่แล้วก็จะทำต่อ ที่ไม่ดีก็ต้องแก้ไขและเพิ่มมาตรการต่าง ๆ โดยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้ได้มีแผนการเพื่อเตรียมรองรับเมื่อโควิด-19 หมดไป ให้พร้อมดำเนินการได้ทันที …ด้านการท่องเที่ยว รัฐบาลมีนโยบายท่องเที่ยวแบบมีคุณภาพมากกว่าปริมาณ สำหรับการเปิดประเทศ 120 วัน เริ่มแล้ว “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” และเริ่มขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ที่มีเตรียมการและสามารถทำได้ภายในเดือน “ตุลาคม” หากยังทำไม่ได้ก็ให้เปิดเป็นบางส่วน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
+++ ขณะที่ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้เปิดแผนการเปิดประเทศใน 120 วันว่า คำว่า 120 วัน ของนายกฯ หมายความว่า จังหวัดไหน พื้นที่ไหนเปิดได้ก็ให้เปิด แม้ไม่ได้เป็นจังหวัด เป็นแค่อำเภอ ให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โดยวันที่ 1 กรกฎาคม ประเทศไทยได้เปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวของชายต่างชาติ ส่วนการเปิดประเทศระยะที่ 2 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป จะเปิดเพิ่มอีก 5 จังหวัด กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่
+++ สเต็ปที่ 3 จะเปิดเพิ่มอีก 21 จังหวัด ครอบคลุมทั้งประเทศ ภาคเหนือ ลำพูน แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงราย สุโขทัย ภาคอีสาน อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ อุบลราชธานี ภาคตะวันตก ประกอบด้วย กาญจนบุรี ราชบุรี ภาคตะวันออก ระยอง จันทบุรี ตราด ภาคกลาง อยุธยา ภาคใต้ นครศรีธรรมราช ระนอง ตรัง สตูล สงขลา จะเริ่มตั้งแต่ 15 ตุลาคม เป็นต้นไป จากนั้นจะเริ่มสเต็ปที่ 4 คร่อมไปต้นปีหน้า โดยเปิดการท่องเที่ยวแบบ bubble กับประเทศเพื่อนบ้าน ตามพื้นที่ชายแดนกัมพูชา มี สุรินทร์ สระแก้ว เกาะกง ตราด ส่วนพม่า เปิดด่านที่แม่สอด ท่าขี่เหล็ก และเกาะสอง
+++ ภาคอีสานที่ติดต่อกับประเทศลาว มี นครพนม หนองคาย มุกดาหาร ทางใต้มีชายแดนติดกับมาเลเซีย เบตง จ.ยะลา โกลก จ.นราธิวาส ด่านนอก ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา วังประจัน จ.สตูล โดยเปิด 1-15 ม.ค.2565 แต่ต้องให้ประเทศเพื่อนบ้านยอมรับ ขอกระทรวงต่างประเทศ ประสานทำการเปิดประเทศ …ทั้งหมดเป็นนโยบาย “เปิดประเทศ 120 วัน” ของนายกฯ แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในความพร้อมของสาธารณสุขจังหวัดเห็นชอบ และจะเปิดการท่องเที่ยวสำหรับคนไทย คงจะเปิดได้ในวันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป เพราะทางภาคเหนือ อีสาน เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ส่วนอันดามัน ย่างเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวทั้ง 6 จังหวัด แต่อ่าวไทยตั้งแต่ชุมพร นราธิวาส เข้าสู่ฤดูมรสุม …อย่างไรก็ตาม รมว.ท่องเที่ยวฯ มีหมายเหตุไว้ด้วยว่า “การที่เราจะเปิดการท่องเที่ยวจะต้องแมตชิ่งกับการได้รับวัคซีนของคนไทยทั้งประเทศ พื้นที่ไหนได้รับวัคซีนแล้ว 70% เราจะทำการหารือกับผู้ว่าฯ เปิดรายจังหวัดร หรือรายอำเภอ”
+++ หลังจบ “ศึกซักฟอก” ควันหลงที่จะต้องติดตามต่อไปก็คือ จะมีการ “ปรับ ครม.” เกิดขึ้นหรือไม่ แม้ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะออกมาบอกว่า ไม่ปรับครม.และยังไม่ยุบสภาในขณะนี้ “ยังไม่มีอยู่ในหัวสมองของผม ใครที่ออกมาพูดลักษณะนี้ขอให้ระวังตัวไว้ด้วย เพื่อสร้างความตระหนักในการอภิปรายอะไรก็แล้วแต่ เพราะผมติดตามข่าวจากสื่อมาตลอด ถ้ามีคนทำเช่นนั้นจริง ผมคิดว่าเป็นคนใช้ไม่ได้” …แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นข่าวอยู่ขณะนี้ก็คือ มีความเคลื่อนไหวของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้มีการ “ปรับ ครม.” เกิดขึ้น
+++ อย่างที่เป็นข่าวออกมาว่า ในการประชุมแกนนำและส.ส.ของพรรค ร่วมกับ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เมื่อ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ได้เปิดใจสะท้อนปัญหาในพรรคว่า ได้รับความคิดเห็นจากส.ส.หลายคน ที่ไม่พอใจถึงการทำงานของรัฐมนตรี โดยเฉพาะ บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ลอยตัวไม่เห็นส.ส.ในสายตา จึงเห็นว่าควรปรับเปลี่ยนโดยดึงโควตากระทรวงมหาดไทย ให้กลับมาเป็นของพรรค เพราะไม่ตอบสนองต่อสังคม และไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ ส่วนโควตากลางเช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน ถ้ารัฐมนตรีคนใดยังทำงานได้และตอบสนองต่อประชาชน เราจะไม่เข้าไปยุ่ง ขณะเดียวกัน มีรายงานด้วยว่า ในวันประชุมดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส ได้ระบุด้วยว่า วันนี้รัฐมนตรีของพรรคทุกคนมีผลงานอะไรบ้าง ที่จะไปใช้หาเสียงกับประชาชนว่าเป็นผลงานของพรรค มองไปแล้วไม่มีเลย …จับสัญญาณได้ว่า “ร.อ.ธรรมนัส” หมายตาเก้าอี้ “มท.1” ไว้ ส่วนจะเป็นดั่งฝันหรือไม่ ต้องติดตาม…