ไทยติดเชื้อใหม่ 2,044 ราย ดับ 27 ราย ห่วง กทม.ตั้งแต่ต้น พ.ค.พุ่งเกิน 500 เร่งหาเตียงรับผู้ป่วยอาการหนัก คลัสเตอร์บางแคพรวด 191 ราย! พนักงานห้างดัง-คนในชุมชน-รถเมล์ “บิ๊กตู่” แจงต้องตัดสินใจเร็วและเด็ดขาดอาวุธสำคัญฝ่าวิกฤติเลวร้าย รัฐบาลชวนคนไทยสวดมนต์สู้โควิดหน้าจอทีวี 11 พ.ค. คกก.โรคติดต่อฯ ลดค่าปรับไม่สวมหน้ากาก
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม เวลา 12.30 น. พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,044 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,040 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,820 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 220 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 78,855 ราย หายป่วยสะสม 49,172 ราย เฉพาะวันนี้หายป่วย 2,377 ราย อยู่ระหว่างรักษา 29,320 ราย อาการหนัก 1,170 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 367 ราย
มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 27 ราย อยู่ใน กทม. 18 ราย นนทบุรี สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย ปทุมธานี ชัยภูมิ ฉะเชิงเทรา ระนอง ระยอง จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 15 ราย หญิง 12 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน สาเหตุการติดเชื้อมาจากใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัวที่ติดเชื้อมาก่อนหน้า สัมผัสผู้ติดป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงชุมชน ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 363 ราย
จากนั้น นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่า 5 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในวันที่ 7 พ.ค. ได้แก่ กทม. 869 ราย, นนทบุรี 201 ราย, สมุทรปราการ 165 ราย, ชลบุรี 89 ราย, สมุทรสาคร 69 ราย หากดูตัวเลข กทม.และปริมณฑล มีถึง 1,372 ราย เฉพาะ กทม.มีผู้ติดเชื้อเกิน 500 รายมาตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. เมื่อดูจำนวนผู้ป่วยอาการหนักจะเห็นว่า กทม. นนทบุรี นครปฐม มีผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงจำเป็นต้องจัดหาเตียงดูแลผู้ป่วยอาการหนัก ดังนั้น การหาเตียงผู้ป่วยหนักของ กทม. ปริมณฑลมาเฉลี่ยกัน ซึ่งในที่ประชุมอีโอซีกระทรวงสาธารณสุขจึงพูดถึงการจัดหาเตียงผู้ป่วยหนักว่ามีความต้องการไปถึงกลางเดือน พ.ค. หรือสัปดาห์ที่ 2 และ 3 ของเดือน พ.ค. เพราะมีแนวโน้มความต้องการเตียงพุ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการสร้างเตียงนอกโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยระดับสีเหลือง ซึ่งแสดงอาการแต่ไม่หนักมาก โดยมองไว้ที่ศูนย์การประชุมแห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ โดยโรงพยาบาลลักษณะนี้เรียกชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า เหลืองบุษราคัม
บางแคพุ่ง 191 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ผอ.เขตบางแครายงานสถานการณ์ในเขตว่า มียอดผู้ติดเชื้อระลอกล่าสุด 191 ราย ทั้งจากชุมชน ห้างสรรพสินค้า และหมู่บ้าน ซึ่งมีรายงานว่ามีแรงงานต่างด้าวติดเชื้อจากห้างสรรพสินค้าและไปแพร่กระจายในชุมชนด้วย ตอนนี้จึงมีการทำงานเชิงรุกลงไปถึงในแต่ละพื้นที่ ทั้งห้างสรรพสินค้าและซอยเพชรเกษม 84 เมื่อเจอคนติดเชื้อก็แยกเข้าสู่โรงพยาบาล โดยเฉลี่ยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 6 ราย โดยให้อยู่ที่บ้านหรือพื้นที่ที่ กทม.จัดให้
ต่อเวลา 14.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการ “PM PODCAST นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง” ผ่านเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า ถึงการเดินหน้าแก้ปัญหาโควิด-19 ว่าในช่วงเวลาที่กำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่มีความเลวร้ายที่สุด เมื่อวันก่อนได้สั่งการ มีการดำเนินการ และออกมาตรการต่างๆ ทันทีหลายเรื่อง ทั้งที่เกี่ยวกับสาธารณสุขและที่เกี่ยวกับปากท้องพี่น้องประชาชน ซึ่งการตัดสินใจในภาพใหญ่ในบางเรื่อง เพื่อจัดการสถานการณ์โควิดในประเทศไทย คิดว่าการตัดสินใจที่เร็วและการทำงานแบบรวดเร็วบูรณาการคืออาวุธที่สำคัญที่สุดของเราในการต่อสู้กับโควิด ดังนั้นเพื่ออำนวยต่อการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น และมีการปฏิบัติอย่างรวดเร็ว สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในการโอนอำนาจตามกฎหมาย 31 ฉบับมาที่นายกรัฐมนตรี ทำให้ตนสามารถออกคำสั่ง อนุญาต อนุมัติ สั่งการ แก้ไขสถานการณ์โควิดได้โดยตรง เพื่อให้การจัดการและแก้ไขสถานการณ์เป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ขอขอบคุณทุกกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีมาตลอด ขอขอบคุณที่เห็นพ้องต้องกันว่าแนวทางนี้จะช่วยให้เรารับมือและผ่านพ้นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนไปได้ สถานการณ์ทั่วโลกตอนนี้มีจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นพุ่งสูงมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดมา เหมือนกับที่ประเทศไทยประสบอยู่ ในกรณีคลัสเตอร์คลองเตยได้ติดตามใกล้ชิดเป็นพิเศษ และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังในการควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยได้ใช้ประสบการณ์จากการจัดการในจังหวัดสมุทรสาครได้สำเร็จมาปรับใช้ ส่วนคลัสเตอร์อื่นๆ จะเร่งตรวจเชิงรุกให้ได้มากที่สุดควบคู่กับการฉีดวัคซีน
อีกประเด็นหนึ่งที่สั่งการให้แก้ปัญหาคือการสำรองเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก โดยเฉพาะในเขต กทม.และปริมณฑลต้องมีการขยายเพิ่มเพื่อรองรับผู้ป่วยอาการหนักในกรณีฉุกเฉิน เมื่อต้นสัปดาห์นี้ได้มีการเปิดโรงพยาบาลสนามที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติเขตทุ่งครุ เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนักอีก 432 เตียง โดยหลักการที่เน้นย้ำเป็นหัวใจของการจัดการสถานการณ์ทุกอย่างก็คือ เราต้องทำทุกทางเพื่อลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ได้ตั้งศูนย์บริบูรณาการแก้ไขโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลขึ้น เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาได้อย่างเร่งด่วน โดยตนจะเป็นผู้อำนวยการศูนย์นี้ และมีหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในพื้นที่เป็นกรรมการ นอกจากนั้นการดำเนินการของศูนย์นี้จะยังสามารถเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาของจังหวัดอื่นๆ ต่อไปด้วย
ต้องรวดเร็วเด็ดขาด
“เมื่อตอนที่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ครั้งแรกด้วยการร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทุกคน ความพร้อมใจในการลงมือทำทุกอย่างอย่างเข้มแข็งทันที ทั้งการทำงานและการร่วมมือกันทั้งประเทศช่วยทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่คนไทยต้องเสียชีวิตเป็นหมื่นเป็นแสนรายเหมือนที่ประเทศชั้นนำของโลกหลายประเทศต้องเจอ ในวันนี้สถานการณ์ปัจจุบันรัฐบาลจึงจำเป็นจะต้องดำเนินการต่างๆ อย่างรวดเร็วเด็ดขาด ขอขอบคุณประชาชนคนไทยที่รักทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
ทางด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีพบคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อในห้างสรรพสินค้าย่านบางแคเป็นจำนวนมากว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบผู้ติดเชื้อในชุมชน ซ.เพชรเกษม 84 จำนวน 14 ราย ในวันที่ 28 เม.ย. 64 ศูนย์บริการสาธารณสุขและสำนักงานเขต ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค ผู้ติดเชื้อเป็นพนักงานห้างเดอะมอลล์บางแค จึงได้สวอบตรวจหาเชื้อเชิงรุกเพิ่มเติม รวมพบติดเชื้อเพิ่ม 191 ราย มีรายละเอียด ดังนี้ พนักงานห้างเดอะมอลล์บางแค และคนที่เกี่ยวข้องบางส่วน 3,686 คน พบติดเชื้อ 82 ราย ผู้อยู่อาศัย ในชุมชน ซ.เพชรเกษม 84 จำนวน 2,700 ราย พบติดเชื้อ 13 ราย และพบผู้ติดเชื้อทำงานเป็นพนักงานรถเมล์ 7 ราย พักอาศัยในชุมชนบ้านขิง จึงได้สวอบหาเชื้อเชิงรุกผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติม โดยคนในชุมชนบ้านขิง 1,500 คน พบผู้ติดเชื้อ 87 ราย คนที่พักอาศัยในหมู่บ้านทวีโชติ 150 คน พบผู้ติดเชื้อ 9 คน พนักงานรถเมล์ 70 คน รอผลตรวจ
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.ร่วมกับสถาบันและป้องกันโรคเขตเมือง (สปคม.) กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย จัดทีมลงพื้นที่เสี่ยงเพื่อตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกหาผู้ติดเชื้อด้วยการสวอบอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง รวมทั้งจัดทีมพิเศษเฉพาะกิจลงพื้นที่ดาวกระจายใน 6 กลุ่มเขต ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 11 พ.ค. โดยมีเป้าหมายคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้ได้ 3,000 คนต่อวัน ดังนี้ กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ : ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่, กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก : สวน 70 พรรษามีนบุรี เขตมีนบุรี, กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง : สนามกีฬาห้วยขวาง เขตห้วยขวาง, กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ : ใต้ทางด่วนพระราม 3 เขตยานนาวา, กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ : สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ : เดอะมอลล์บางแค เขตบางแค
สำหรับผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกในชุมชนเขตคลองเตย ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. จนถึง 7 พ.ค. ตรวจแล้ว 8,022 ราย พบ ผลติดเชื้อเชื้อ 219 ราย ทั้งนี้ กทม.ได้ขยายศักยภาพการตรวจหาเชื้อเพิ่มอีกให้ได้วันละ 4,500 ราย
สวดมนต์สู้โควิด
วันเดียวกัน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์พร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งมหาเถรสมาคมมีมติเห็นชอบกำหนดจัดพิธีดังกล่าวขึ้นในวันที่ 11 พ.ค. เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายอนุชา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
สำหรับการจัดพิธีในพื้นที่ส่วนกลาง จะจัดขึ้นที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดไตรมิตรวิทยาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ส่วนภูมิภาค กำหนดให้วัดในนามเขตปกครองหนต่างๆ ดังนี้ เขตปกครองหนกลาง ณ วัดพนัญเชิงฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตปกครองหนเหนือ ณ วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ เขตปกครองหนตะวันออก ณ วัดพระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร และ เขตปกครองหนใต้ ณ วัดกระพัง สุรินทร์ จังหวัดตรัง ในส่วนของวัดอื่นทั่วไปและวัดไทยในต่างประเทศให้พิจารณาจัดพิธีตามความเหมาะสม
“การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ครั้งนี้ เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชน รวมถึงเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประเทศชาติ ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบันที่ทุกคนเผชิญอยู่ อาจทำให้เกิดความเครียด การสวดมนต์ ทำสมาธิ จะช่วยทำให้จิตใจสงบมากขึ้น โดยขอให้ทุกคนมีสติ ใช้ชีวิตแบบ New Normal ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันเพื่อก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมพิธี ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่วัด ขอให้ติดตามการถ่ายทอดสดทางช่อง NBT และร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ไปพร้อมกันผ่านทางหน้าจอทีวีอยู่ที่บ้าน” นายอนุชาระบุ
น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังน่าเป็นห่วง และมีบุคลากรในทำเนียบรัฐบาลติดเชื้อ จึงมีความจำเป็นต้องขยายเวลางดสื่อมวลชนเข้ามาปฏิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาล ไปจนถึงวันที่ 21 พ.ค.นี้
ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่า คณะกรรมการฯ มีความเห็นชอบให้ออกอนุบัญญัติตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ในเรื่องการเปรียบเทียบปรับกรณีไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเวลาออกนอกเคหสถาน โดยจะมีการอนุโลม ยกเว้น และการลดค่าปรับตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งเจ้าพนักงานตามกฎหมายเพิ่มเติมคือข้าราชการสังกัดกรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงเรื่องค่าปรับในการไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าว่า ที่ประชุมมีการหารือการคร่าวๆ จะแบ่งเป็นการกระทำผิดครั้งแรกปรับไม่เกิน 1,000 บาท หากมีการกระทำผิดซ้ำจะปรับตั้งแต่ 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท และถ้ายังมีการกระทำผิดอีกจะปรับในหลักหมื่นแต่ไม่เกิน 20,000 บาท.