เช้านี้ที่หมอชิต – ยางพาราเถื่อนระบาดหนักในภาคใต้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไล่ล่าแก๊งขนยางพาราเถื่อน ก่อนจะรวบตัวผู้ลักลอบเป็นชายชาวไทย 1 คน พร้อมยางพารากว่า 3,000 กิโลกรัม
เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ กองกำลังเทพสตรี รับรายงานว่าจะมีการลักลอบขนยางพาราแผ่นดิบข้ามมาจากประเทศเมียนมา เข้าประเทศไทยจำนวนมาก โดยไม่ผ่านศุลกากร ใช้การขนส่งจากช่องทางธรรมชาติข้ามแม่น้ำกระบุรี อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง จึงมีการตั้งจุดตรวจ 24 ชั่วโมง
จนกระทั่งกลางดึกคืนที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่พบเรือหางยาวแล่นผ่านแม่น้ำกระบุรี เข้าเทียบท่าเรือที่บ้านบางกุ้ง และมีรถกระบะเข้ามาจอดเทียบ โดยมีแรงงานชายชาวเมียนมา 7 คน ช่วยกันขนย้ายสิ่งของจากเรือหางยาวใส่รถกระบะ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นดังนั้นจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที พร้อมตะโกนสั่งให้หยุด เมื่อชายทั้ง 7 คน เห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบกระโดดลงเรือหางยาวก่อนจะขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว จากการตรวจค้นหลังรถกระบะ พบยางพาราแผ่นดิบ น้ำหนัก 2,000 กิโลกรัม
ต่อมามีชายชาวไทย อายุ 31 ปี เข้ามาแสดงตนรับเป็นเจ้าของ โดยอ้างว่าซื้อยางพาราแผ่นดิบมาในราคากิโลกรัมละ 38 บาท และจะนำไปขายให้กับร้านค้ากิโลกรัมละ 41 บาท ซึ่งจะได้กำไรต่อเที่ยว 6,000 บาท
และในขณะเดียวกันนั้น ห่างออกไปจากท่าเรือ 800 เมตร เจ้าหน้าที่ได้สกัดจับรถกระบะที่พยายามขับหลบหนีการจับกุม โดยคนขับได้จอดรถกลางถนน ทิ้งรถไว้ก่อนจะวิ่งหนีเข้าป่า จากการตรวจค้นรถกระบะคันดังกล่าว พบยางพาราน้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิด เป็นชายชาวไทย 1 คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาลักลอบนำสินค้าทางการเกษตรเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากร พร้อมนำของกลางไปทำบันทึกการจับกุม ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป